หอยแมลงภู่อบสมุนไพร


 

 

 

 

 

 

 

 

หอยแมลงภู่เป็นหอยน้ำเค็ม  มีสองฝา  ฝามีสีเขียวอมดำ  ปกติเวลาอบหลาย ๆ บ้านมักใส่แค่ใบโหระพา  ตะไคร้  แต่วันนี้แม่หลิ่มทำให้หอมและแซ่บมากขึ้นโดยการใส่  ข่า  ตะไคร้  ใบมะกรูด  หัวหอมแดง  กระชายซอย  ใบโหระพา  และพริกขี้หนูสวนลงไป  เติมน้ำซุปเล็กน้อย  ปรุงรสด้วยน้ำปลา  นำไปอบให้หอยสุก  แล้วก่อนเสิร์ฟบีบมะนาว  ถ้าได้หอยที่ไม่มีโคลน  น้ำซุปและน้ำที่ออกมาจากตัวหอยเองรสชาติจัดจ้านมากค่ะ  ซดแล้วโฮกฮือ  :) ))

ก็เคยได้กินมาจากร้านอาหารอีกนั่นล่ะคะ  แต่เขาเสิร์ฟมาในหม้อดินจำแลงแปลงกาย  หม้อนิดเดียวราคาเกือบร้อยบาท  ถ้าเทียบกับเราไปซื้อของที่ตลาดมาทำแล้วถูกกว่ากันเยอะค่ะ

แม่หลิ่มเคยทำโดยใช้หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ที่ฟรีซมา  ได้เนื้อหอยเต็ม ๆ จริง  แต่ความสดความหวานนั้นสู้หอยแมลงภู่บ้านเราไม่ได้  แต่ต้องเลือกตัวใหญ่ ๆ หน่อยนะคะ  เดี๋ยวนี้ราคากิโลละ 50-60 บาทแล้ว  เมื่อก่อนหอยแมลงภู่ไม่มีราคาค่างวดสูงเหมือนสมัยนี้

เตรียมของ
หอยแมลงภู่ตัวใหญ่ ๆ 500 กรัม (1/2 กิโลกรัม)
ตะไคร้ 2-3 ต้น
ข่า 3-4 แว่น
หัวหอมแดง 6-7 หัว
กระชายซอย 1/4-1/3 ถ้วยตวง
ใบมะกรูด 5-6 ใบ
ใบโหระพา 6-7 กิ่ง
พริกไทยอ่อน  มากน้อยตามชอบ
พริกขี้หนูสวน  มากน้อยตามชอบ
พริกขี้หนูเม็ดใหญ่สีแดง  มากน้อยตามชอบ
น้ำมะนาว  มากน้อยตามชอบ
น้ำปลา  มากน้อยตามชอบ
ซุปไก่ก้อนหรือซุปไก่ผง  1 ช้อนโต๊ะหรือ 1 ก้อน
น้ำสะอาด 1 ถ้วย

ขั้นตอนการทำ

  1. นำหอยแมลงภู่แช่น้ำ  ใช้มีดตัดขนออกบ้าง  เกลา ๆ ผิวให้เกลี้ยงเกลาพองาม  สมัยแม่หลิ่มเด็ก ๆ จะมีน้าผู้ชาย  เขามีอาชีพถีบสามล้อ  บ้านเขาติดทะเล  เค้าจะเอาหลักคือไม้ไผ่รวกดี ๆ นี่เองไปปัก  แล้วหอยแมลงภู่จะติดหลักเพื่อยังชีพ  น้าคนนั้นจะยกมาให้ที่บ้านเป็นประจำ  ด้วยความที่เขาสนิทกับพ่อและแม่ของแม่หลิ่ม  แม่สอนให้แม่หลิ่มใช้มีดกะเทาะตัวหอยออกจากหลัก  กะเทาะเอาเพรียงที่ติดตัวหอยออกบ้าง  แล้วก็ตัดขนส่วนเกินออก  ผ่าหอยเป็นสองฝา  แล้วแกะเอาแต่เนื้อมาทำหอยทอด  สุดจะเมื่อย  ยุงและริ้นชอบตามเวลาได้กลิ่นของทะเลค่ะ
  2. ถ้าได้หอยที่ดีที่สด  เขาจะเผยอ ๆ ปากเมื่ออยู่ตามธรรมชาติ  แต่ถ้าเราเอามือไปแตะละก็เขาจะรีบหุบปากทันที  เป็นกลไกการป้องกันตัวของสัตว์  ถ้าซื้อหอยมาจากตลาดแล้วยังไม่ทำกินเลยวิธีการเก็บคือเขาให้ใส่ตะกร้าโปร่ง ๆ แล้วหาผ้าชุบน้ำคลุม  ถ้าเทียบกันแล้วหอยแมลงภู่โคลนน้อยกว่าหอยลายเยอะค่ะ
  3. เตรียมพวกสมุนไพรกันต่อ  หัวหอมแดงปอกเปลือกออก  ล้างน้ำ  ทุบหรือบุบพอให้หัวหอมแตกตัว  เหมือนกับที่เราต้มยำทำแกง  ตะไคร้ก็เช่นเดียวกัน  ตัดปลายทิ้ง  ล้างน้ำ  ลอกกาบนอกออก  แล้วบุบแล้วหั่นเฉียง ๆ  ข่าก็เช่นเดียวกันหั่นเป็นแว่นเหมือนกับการทำต้มยำทั่วไป  แต่ถ้าใส่ข่ามากไปจะออกปร่า ๆ ยังไงก็ไม่รู้
  4. กระชายสะดวกซอยเองหรือซื้อแบบที่ซอยแล้วมาก็ตามแต่  อย่าลืมล้างแล้วสงให้สะเด็ดน้ำ  ผักใบมีสองอย่าง  คือ  ใบมะกรูดและใบโหระพา  ถ้าชอบเผ็ดร้อนมากใส่ใบกระเพราแทนก็ยังไหว  แต่ความหอมผิดกันค่ะ  แม่หลิ่มว่าใบโหระพาเข้ากันกับพวกอบหอยแมลงภู่มากกว่าใบกะเพรา  ทำไว้เหมือนทำแกงกะทิทั้งหลายนะคะ
  5. วางสมุนไพรบางส่วนไว้ที่ก้นหม้อแบบคละเคล้ากันไป  ไม่ต้องบรรจงจัดเรียงให้สวยงามแบบส่งประกวด
  6. ตามด้วยหอยแมลงภู่ที่เตรียมไว้  ทำสลับชั้นไปเรื่อย ๆ  แม่หลิ่มทำ 2-3 ชั้น  แล้วแต่ความสูงของหม้อด้วยค่ะ
  7. ชั้นสุดท้ายอย่าลืมใส่ซุปผงหรือซุปก้อน  ใส่น้ำสะอาด 1 ถ้วย  บีบน้ำมะนาว 3-4 ช้อนโต๊ะ  น้ำปลา 3-4 ช้อนโต๊ะ  และทุบพริกขี้หนูสวนและบุบพริกขี้หนูเม็ดใหญ่สีแดงใส่ไปด้วย  อ้อ !!!!  อย่าลืมใส่เม็ดพริกไทยอ่อนรูดเอาแต่เม็ดลงไปด้วยนะคะเพื่อความเผ็ดร้อนเพิ่มขึ้น  แต่ถ้าไม่ชอบหรือไม่มีจะละเว้นเสียก็ไม่ผิดค่ะ
  8. ปิดฝาหม้อแล้วนำไปตั้งเตาไฟแรง ๆ ให้หอยเปิดฝาและคายน้ำออกมา  เขย่าหม้อเป็นระยะเพื่อให้หอยสุกทั่วถึงกัน  อย่าได้นิ่งเฉย  มิเช่นนั้นหอยด้านล่างจะสุกจนหดตัวแต่หอยด้านบนยังฝาไม่อ้า  เมื่อหอยเปิดฝาออกหมดจะมีน้ำออกมาเพิ่ม  น้ำที่ออกมาจากหอยเองกับน้ำซุปจะมีรสชาติอยู่ในตัว  ความแซบแล้วแต่เราปรุงแต่งในตอนแรก  แต่ถ้าไม่จัดจ้านพอเพิ่มเติมได้ตอนก่อนเสิร์ฟ
  9. อบแค่หอยเปิดฝาเสมอกันก็พอแล้ว  เพราะถ้าอบนานไปเนื้อหอยจะหดหมด  ความหวานในตัวหอยจะลดลง  กินแล้วอร่อยน้อยลงไปค่ะ
  10. เสิร์ฟร้อน ๆ ซดน้ำโฮกฮือนะคะ :) ))))
Tweet